หน่วยที่ 4
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic Component) เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่แยกออกเป็นชิ้นย่อยๆเป็นเอกเทศหรือเป็นอุปกรณ์ที่มีเอกลักษณ์ทางกายภาพในระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการส่งผลกระทบต่ออิเล็กตรอนหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กตรอน
ตัวอย่างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมากกว่าสองขั้วไฟฟ้า(ขาหรือลีดส์) เมื่อนำขาของชิ้นส่วนหลายชนิดมาบัดกรีเข้าด้วยกันบนแผงวงจรพิมพ์จะสร้างเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (วงจรย่อย) ที่มีฟังก์ชันที่เฉพาะเจาะจง (เช่นเครื่องขยายสัญญาณ, เครื่องรับสัญญาณวิทยุหรือ oscillator) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานอาจจะถูกเก็บในบรรจุภัณฑ์แยกชนิดกัน หรือจัดเรียงเป็นแถวหรือเครือข่ายของส่วนประกอบที่เหมือนกันหรือผสมกันภายในแพคเกจเช่นวงจรรวมเซมิคอนดักเตอร์, แผงวงจรไฟฟ้าไฮบริดหรืออุปกรณ์ฟิล์มหนา. รายการของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่อไปนี้ มุ่งเน้นไปที่ชิ้นส่วนที่แยกเป็นเอกเทศโดยถือว่าแพคเกจที่พูดถึงเป็นชิ้นส่วนเอกเทศตามนัยของมันเอง ในบทความนี้ คำว่าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ มีความหมายเหมือนกัน
เนื้อหา
[ซ่อน] 1 การจัดหมวดหมู่
2 อุปกรณ์ Active 2.1 สารกึ่งตัวนำ 2.1.1 ไดโอด
2.1.2 ทรานซิสเตอร์
2.1.3 แผงวงจรรวม
2.1.4 อุปกรณ์ Optoelectronic
2.2 เทคโนโลยีจอแสดงผล
2.3 หลอดสูญญากาศ (วาล์ว)
2.4 อุปกรณ์ discharge
2.5 แหล่งพลังงาน
3 อุปกรณ์ Passive 3.1 ตัวต้านทาน (Resistor)
3.2 ตัวเก็บประจุ (Capacitor)
3.3 อุปกรณ์เหนี่ยวนำแม่เหล็ก (Inductor)
3.4 เครือข่าย
3.5 ทรานสดิวเซอร์, ตัวเซ็นเซอร์, ตัวตรวจจับ
3.6 เสาอากาศ
3.7 ส่วนประกอบ, โมดูล
4 เครื่องกลไฟฟ้า 4.1 อุปกรณ์ piezoelectric คริสตัล resonators
4.2 ขั้วไฟฟ้าและหัวต่อ
4.3 สายเคเบิล
4.4 สวิทช์
4.5 อุปกรณ์ป้องกัน
4.6 ส่วนประกอบเครื่องกล
5 สัญลักษณ์มาตรฐาน
6 ดูเพิ่ม
7 อ้างอิง
การจัดหมวดหมู่[แก้]
ชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นอาจจำแนกเป็นพาสซีฟ, หรือแอคทีฟหรือกลไกอิเล็กตรอน
อุปกรณ์พาสซีฟหมายถึงอุปกรณ์ที่ทำงานโดยไม่ต้องจ่ายพลังงานไฟฟ้าหรือทำงานด้วยคุณสมบัติเฉพาะทางฟิสิกซ์ของตัวเองเช่นตัวต้านทาน
อุปกรณ์แอคทีฟหมายถึงอุปกรณ์ที่ทำงานโดยต้องจ่ายพลังงานเช่นทรานซิสเตอร์หรืออุปกรณ์ผลิตพลังงานเช่นเซลล์แสงอาทิตย์
อุปกรณ์กลไกอิเล็กตรอนหมายถึงอุปกรณ์ที่ทำงานโดยการใช้การเคลื่อนไหว เช่นคริสตัล(สั่นเพื่อผลิตความถี่), สวิทช์(ปิด/เปิด)
อุปกรณ์ Active[แก้]
สารกึ่งตัวนำ[แก้]
ไดโอด[แก้]
ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ในทิศทางเดียว
ไดโอด - ให้กระแสไหลผ่านทางเดียว ใช้ทำวงจรเรียงกระแส
สก็อตต์กี้ไดโอด, ไดโอดพาหะร้อน - ไดโอดความเร็วสูง เมื่อกระแสไหลมีแรงดันตกคร่อมต่ำ
ซีเนอร์ไดโอด - ยอมให้กระแสไหลผ่านในทิศทางย้อนกลับเพื่อให้แรงดันอ้างอิงคงที่
ไดโอดลดแรงดันไฟฟ้าชั่วคราว Transient voltage suppression diode (TVS) , Unipolar หรือไบโพลาร์ - ใช้ในการดูดซับ spikes แรงดันสูง
วาแรกเตอร์, จูนนิ่งไดโอด, Varicap ไดโอด, ไดโอดความจุแปรได้ - ไดโอดที่มีค่าความเก็บประจุ(capacitance) AC แปรผันตามแรงดันไฟ DC ที่ใช้
ไดโอดเปร่งแสง, light-emitting diode (LED) - ไดโอดที่ปล่อยแสงออกมา
เลเซอร์ไดโอด - เลเซอร์เซมิคอนดักเตอร์
โฟโต้ไดโอด - ให้กระแสผ่านเป็นสัดส่วนกับแสงที่ตกกระทบ โฟโต้ไดโอดถล่มถลาย - โฟโต้ไดโอดที่ผ่านกระแสแบบถล่มถลาย
เซลล์แสงอาทิตย์, เซลล์โฟโต้โวลตาอิค(PV cell) - สร้างพลังงานจากแสง
ไดแอค (Diode for Alternating Current), Trigger Diode, SIDAC – ใช้จุดชนวน SCR (ตัวเรียงกระแสควบคุมชนิดซิลิคอน)
ไดโอดกระแสคงที่
เพวเทียคูลเลอร์ Peltier cooler – สารกึ่งตัวนำถ่ายเทความร้อน ใช้แทน heat sink
ทรานซิสเตอร์[แก้]
ทรานซิสเตอร์ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ของศตวรรษที่ยี่สิบที่ทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์เปลี่ยนไปตลอดกาล ทรานซิสเตอร์เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำที่ใช้ในการขยายสัญญาณและเปิดปิดสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์และพลังงานไฟฟ้า
ทรานซิสเตอร์ ทรานซิสเตอร์สองขั้ว (Bipolar Junction Transistor) - ใช้ 2 ขั้วของกระแสคืออิเล็กตรอน(ลบ Negative)และโฮล(บวก Positive) - NPN หรือ PNP
โฟโต้ทรานซิสเตอร์ - ทำงานเมื่อถูกแสง
ทรานซิสเตอร์ดาร์ลิงตัน - ต่อทรานซิสเตอร์แบบ NPN หรือ แบบ PNP สองตัวคู่กัน
โฟโต้ดาร์ลิงตัน - ทำงานด้วยแสง
Sziklai pair - เหมือนทรานซิสเตอร์ดาร์ลิงตัน แต่ผสม PNP กับ NPN
แผงวงจรรวม[แก้]
ดิจิทัล
แอนะล็อก Hall effect sensor - ตรวจจับสนามแม่เหล็ก
Current sensor - ตรวจจับกระแสที่ไหลผ่าน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น